“มีแต่เชิงมวย ที่ได้ต่อชีพให้พอรอดตาย ชีวิตของลูกผู้ชาย ผู้กลายมาเป็นตำนาน” คนในวงการมวยคนไหนบ้างที่ไม่เคยได้เนื้อเพลงท่อนนี้ หากพูดถึงตำนานแห่งมวยไทยคงไม่มีใครไม่รู้จัก “นายขนมต้ม” ชื่อที่คนไทยน่าจะคุ้นหูกันดี เพราะเขาคือตำนานวีรบุรุษเลือดสยาม นักมวยคาดเชือกแห่งพระนครศรีอยุธยา
ตำนานของนายขนมต้มเกิดขึ้นตอนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 นายขนมต้มเองก็โดนกวาดต้อนไปเป็นเชลย ซึ่ง ทางพม่ากวาดชาวสยามไปในครั้งนั้น พระเจ้ามังระทรงจัดงานสมโภชเจดีย์ชเวดากองขึ้น และให้มีการแข่งชกมวย ระหว่างนักชกสยามปะทะกับนักชกพม่า เนื่องจากพระเจ้ามังระได้ทราบว่าชาวสยามมีนักมวยฝีมือเยี่ยมอยู่ จึงอยากทอดพระเนตรว่านักมวยชาวสยามนั้นมีฝีมือจริงแท้สมคำล่ำลือแค่ไหน แต่นายขนมต้มสามารถเอาชนะนักชกชาวพม่าได้ในเวลาไม่ถึงยก พระเจ้ามังระสั่งให้นายขนมต้มสู้ต่อกับนักชกชาวพม่าอีก 9 คน โดยพระเจ้ามังระให้สัตย์ปฏิญาณว่า ถ้านายขนมต้มสามารถเอาชนะนักมวยพม่าทั้ง 9 คนได้ จะพระราชทานอิสระภาพให้นายขนมต้มและเชลยศึกชาวสยาม ในที่สุดนักชกเลือดสยามผู้นี้ก็ประกาศให้ถึงความยอดเยี่ยมแห่งศิลปะแม่ไม้มวยไทย พระเจ้ามังระตบพระหัตถ์และตรัสสรรเสริญนายขนมต้ม
และการณ์ในวันนั้นตรงกับวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2317 ดังนั้นในปัจจุบันนี้จึงได้มีการตกลงกันให้วันนี้ 17 มีนาคมของทุกปีนั้นเป็นวันเชิดชูเกียรติของนายขนมต้ม นักมวยไทยผู้พิชิตนักมวยชาวพม่าในวันนั้น นอกจากนี้ ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์นายขนมต้ม ไว้ที่บริเวณสนามกีฬากลางของจังหวัด